หน้าเว็บ

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

CAI ให้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

CAI หลายๆคนคงจะเคยได้ยินคำนี้อยู่บ่อยๆ  หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทั้งที่เคยใช้มันแล้วนั่นแหละค่ะ สำหรับฉันทั้งเคยได้ยินบ่อย  แล้วก็เคยใช้บ่อยด้วยค่ะ แต่ไม่ยักรู้ว่ามันคือบทเรียน CAI ฉันว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนกัน เอ๊ะ!หรือเป็นอยู่คนเดียว 555+ ถ้าอย่างนั้นเราไปทำความรู้จักกับบทเรียน CAI กันเลยดีกว่าค่ะ

                          


ทำไม??ถึงต้องให้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 

1.การนำบทเรียน CAI มาใช้ในการเรียนการสอน  เป็นการตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน เด็กที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วจะเรียนได้เร็วกว่าการสอนปกติ โดยไม่ต้องคอยเพื่อนในชั้นเรียน  และเนื่องจากลักษณะของโปรแกรมเป็นโปรแกรมที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เรียน  เป็นการช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนช้า  สามารถเรียนไปตามความสามารถของตน ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอายผู้อื่น  และไม่ต้องอายเครื่องเมื่อตอบคำถามผิด  ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้ดีตามความสามารถของตนเอง   นอกจากนี้ยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดีให้แก่ผู้เรียนด้วย เนื่องจากผู้เรียนจะต้องฝึกความรับผิดชอบและมีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตนเอง

2.ผู้เรียนมีการโต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ และบทเรียน  ผู้เรียนมีโอกาสเลือก ตัดสินใจ และได้รับการเสริมแรงจากการได้รับข้อมูลย้อนกลับทันที ช่วยให้ผู้เรียนมีความคงทนในการเรียนรู้สูง เพราะมีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้เรียน เนื่องจากการนำเสนอเนื้อหาสามารถใช้สื่อได้อย่างหลากหลาย (Multimedia) เช่น ข้อความ (Text) รูปภาพ (Image) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) ภาพวิดีโอ (Video) และเสียง (Audio) ทำให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ในการเรียนรู้ผ่านการดู การฟัง ช่วยให้ผู้เรียนจดจำได้ดียิ่งขึ้น 

3.มีรูปแบบบทเรียนให้เลือกใช้มมากมาย เช่น การสอน ทบทวน เกม การจำลองสถานการณ์ เป็นต้น

4.ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีการวัดผลและประเมินผลไปพร้อม ๆ กัน  ให้ข้อมูลย้อนกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อนักเรียนมีปัญหา หรือไม่เข้าใจในบทเรียนหรือเมื่อนักเรียนตอบคำถามได้ถูกต้องเครื่องจะรายงาน ผลให้ทราบทันที ผู้เรียนสามารถรับรู้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ได้อย่างรวดเร็ว เป็นการท้าทายผู้เรียน เสริมแรงให้อยากเรียนต่อ

5.ผู้เรียนได้เรียนเป็นขั้นตอนจากง่ายไปหายากอย่างเป็นระบบ ซึ่งความสามารถของคอมพิวเตอร์ช่วยในการบันทึกคะแนน และยังเป็นการประหยัดเวลาให้กับผู้สอนในการประเมินผล คิดเกรดอีกด้วย

6.ประหยัดเวลา และงบประมาณในการจัดการเรียนการสอน โดยลดความจำเป็นที่จะต้องใช้ครูที่มีประสบการณ์สูง หรือเครื่องมือราคาแพง เครื่องมืออันตราย ในการสร้างสถานการณ์จำลอง การเลียนแบบของจริง ตลอดจนการช่วยตัดสินใจการนำเสนอเนื้อหาใหม่ ๆ หรือจะให้ผู้เรียนกลับไปศึกษาเนื้อหาเดิม ทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมอีกก็ได้

6.สะดวกในการนำมาใช้ และสะดวกในการให้ผู้เรียนนำไปทบทวนบทเรียน เนื่องจากโปรแกรมสามารถถ่ายโอนข้อมูลลงในระบบสารสนเทศ หรือ CD-Rom ได้ ผู้เรียนสามารถศึกษาจากบทเรียนขณะที่อยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่โรงเรียนก็ได้  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้นำเสนอโปรแกรมอย่าง tablet ยิ่งทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และยังเป็นการลดช่องว่างการเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนในเมือง และชนบท เพราะสามารถส่งบทเรียนไปยังโรงเรียนชนบทให้เรียนรู้ได้ด้วย

จากคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าแตกต่างไปจากสื่อการสอนอื่น ๆ คือ สามารถโต้ตอบ และแสดงผลลัพธ์ให้ผู้เรียนดูได้ทันที ทำให้น่าตื่นเต้น สนุกสนาน การใช้สี  ภาพเคลื่อนไหว  เสียงดนตรี  เป็นการเพิ่มความเหมือนจริงและเร้าใจผู้เรียนให้เกิดความอยากเรียนรู้  ทำแบบฝึกหัด  หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำเนื้อหา และเข้าใจบทเรียนได้อย่างรวดเร็ว


ถึงแม้ว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์และตอบสนองความแตกต่างและความต้องการของผู้เรียนได้เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็มีข้อเสียและ-ข้อจำกัดอยู่หลายประการ ดังนี้

1.เนื่องจากบทเรียน CAI จะต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยในการอ่านข้อมูล ทำให้เป็นอุปสรรคต่อนักเรียนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต(เนื่องจากบางครั้งครูผู้สอนนำเสนอข้อมูลลงอินเทอร์เน็ต) และถึงแม้ว่าปัจจุบันราคาเครื่องคอมพิวเตอร์จะลดลงมากแล้วก็ตาม แต่การที่จะนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในสถานศึกษานั้นจำเป็นต้องมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบเพื่อให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายตลอดจนการดูแลรักษาด้วย

2.ปัจจุบันยังขาดอุปกรณ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานระดับเดียวกันเพื่อให้สามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกันเช่น ซอฟต์แวร์ที่ผลิตขึ้นมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบของไอบีเอ็มไม่สามารถใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบของแม็กอินทอชได้

3.เนื่องจากบทเรียนคอมพิวเตอร์เป็นการวางโปรแกรมบทเรียนไว้ล่วงหน้าจึงมีลำดับขั้นตอนในการสอนทุกอย่างตามที่วางไว้ ดังนั้น การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจึงไม่สามารถช่วยในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนได้

4.ผู้เรียนบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนที่เป็นผู้ใหญ่ อาจจะไม่ชอบโปรแกรมที่เรียนตามขั้นตอนทำให้เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ได้

5.ในการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนั้น นับว่าเป็นงานที่ต้องอาศัยเวลา และการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี ต้องอาศัยความคิดจากผู้ชำนาญการ หรือผู้เชี่ยวชาญ จำนวนมากในการระดมความคิด ใช้เวลาในการพัฒนานาน การออกแบบสื่อ กระทำได้ยาก และซับซ้อน และในการการพัฒนาสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์

บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแม้จะมีประโยชน์หลายๆด้านก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามในการนำเอาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มาใช้ในการเรียนการสอนนั้น จะต้องคำนึงถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วย เพราะคอมพิวเตอร์ช่วยสอนไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวมันเอง เป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ช่วยในการจัดการเรียนการสอนเท่านั้น ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ใช้แทนครูผู้สอนได้ค่ะ   

้างอิง



วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

I Love Technology


ถ้าจะพูดถึงเทคโนโลยีทางการศึกษา คุณจะนึกถึงอะไรดีคะ คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต โปรเจคเตอร์ ไมโครโฟน  เครื่องเสียง  โทรทัศน์ วิทยุ E-book E-learning การศึกษาทางไกล ดาวเทียม ??